กาแฟสักแก้ว ไม่ได้มีดีแค่คาเฟอีน แต่ยังซ่อนเรื่องราวอันน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่สายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟที่นำมาชง ไปจนถึงวิธีการแปรรูป และการคั่วที่ส่งผลต่อรสชาติ คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมกาแฟแต่ละแก้วถึงมีความแตกต่างกัน? มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกันกับเรา ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกโลกของ เมล็ดกาแฟสด ตั้งแต่ชนิดของเมล็ด กระบวนการแปรรูป ระดับการคั่ว และเมนูสุดฮิตที่คุณต้องลอง
เมล็ดกาแฟสด มีกี่ชนิด?

เมล็ดกาแฟสด ที่เราเห็นกันนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้กาแฟแต่ละแก้วมีความพิเศษเฉพาะตัว เมล็ดกาแฟที่นิยมนำมาชงดื่มกันมากที่สุด ได้แก่ อาราบิก้า (Arabica) และ โรบัสต้า (Robusta)
กาแฟอาราบิก้า : ราชินีแห่งกาแฟ รสชาติเยี่ยม
กาแฟอาราบิก้า ถือเป็นราชินีแห่งกาแฟ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความหอมกรุ่นที่โดดเด่น เมล็ดมีรูปทรงรี แกนกลางรูปตัว S ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนรักกาแฟทั่วโลก เมล็ดกาแฟสด สายพันธุ์อาราบิก้า มักจะปลูกในพื้นที่ปลูกระดับความสูง 800 ม. ขึ้นไป มีอากาศเย็น และมีการดูแลเป็นพิเศษ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง
รสชาติของกาแฟอาราบิก้า นั้นมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับแหล่งปลูกและวิธีการแปรรูป แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีรสชาติที่กลมกล่อม นุ่มนวล หวานละมุนลิ้น มีความเปรี้ยวสดชื่น และมีกลิ่นหอมของผลไม้ ดอกไม้ หรือช็อกโกแลต ซึ่งแตกต่างจากกาแฟสายพันธุ์อื่นๆ อย่างชัดเจน
เมล็ดกาแฟอาราบิก้า มีคาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟสายพันธุ์อื่นๆ (ไม่ถึง 2% ของน้ำหนักกาแฟ) ทำให้ดื่มได้ง่ายและไม่กระตุ้นมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีกรดที่ช่วยให้รสชาติของกาแฟมีความซับซ้อนและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
หากคุณกำลังมองหากาแฟที่มีรสชาติอร่อยและกลิ่นหอม กาแฟอาราบิก้าคือคำตอบที่ใช่ เพราะเป็นกาแฟที่มีคุณภาพสูงและได้รับความนิยมทั่วโลก
กาแฟโรบัสต้า : รสชาติเข้มข้น พลังงานเต็มเปี่ยม
กาแฟโรบัสต้า เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก โดยมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากกาแฟอาราบิก้าอย่างชัดเจน เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า มีขนาดเล็กกว่าอาราบิก้า เมล็ดมีรูปทรงกลม แกนกลางเป็นเส้นตรง และมักปลูกในพื้นที่ต่ำในระดับความสูงต่ำกว่า 800 ม.
รสชาติของกาแฟโรบัสต้า นั้นโดดเด่นด้วยความขมเข้ม มีตัวบอดี้ที่หนา และมีคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้ามาก ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่น นอกจากนี้ยังมีกลิ่นและรสของถั่วและโกโก้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟโรบัสต้า
เมล็ดกาแฟโรบัสต้า มักถูกนำไปใช้ในการผลิตกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟผสม เนื่องจากให้ปริมาณคาเฟอีนที่สูง (มากกว่า 2% ของน้ำหนักกาแฟ) และมีราคาถูกกว่ากาแฟอาราบิก้า กาแฟโรบัสต้านำมาชงเป็นกาแฟโดยให้รสชาติที่เข้มข้นและขมกว่า
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มและต้องการพลังงาน กาแฟโรบัสต้าคือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นตลอดทั้งวัน
การเลือกกาแฟสดนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากคุณชอบกาแฟรสชาติเบาๆ หอมหวาน ควรเลือกเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า แต่ถ้าคุณชอบกาแฟรสชาติเข้มข้นและคาเฟอีนสูง โรบัสต้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เมล็ดกาแฟสด มีกี่โพรเซส ?

นอกจากสายพันธุ์แล้ว เมล็ดกาแฟสด ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของกระบวนการแปรรูป หรือที่เรียกว่า “Process” ซึ่งมีผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟอย่างมาก Process ที่สำคัญมีอยู่ 3 แบบหลักๆ ได้แก่
Natural Process : รสชาติเข้มข้นจากธรรมชาติ
กาแฟ Natural Process หรือ Dry Process เป็นวิธีการแปรรูปเมล็ดกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุด โดยการนำผลเชอร์รี่กาแฟทั้งหมดไปตากแห้งโดยไม่มีการปอกเปลือกภายใต้แสงแดดโดยตรงจนแห้งสนิท ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการแปรรูปอื่นๆ ที่จะมีการปอกเปลือก และคัดแยกเนื้อเยื่อออก
กระบวนการ Natural Process ทำให้เมล็ดกาแฟดูดซับรสชาติและกลิ่นจากเนื้อผลเชอร์รี่ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้กาแฟที่ได้มีรสชาติเข้มข้น มีความหวานจากธรรมชาติที่โดดเด่น
เมล็ดกาแฟสด ที่ผ่านกระบวนการ Natural Process มักจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธุ์กาแฟและสภาพแวดล้อมในการปลูก มีกลิ่นคล้ายผลไม้สุก ผลไม้ตากแห้ง หรือกลิ่นคล้ายไวน์
กาแฟ Natural Process เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น และต้องการสัมผัสรสชาติที่เป็นธรรมชาติของกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชงด้วยวิธีการดริป (Pour Over) ซึ่งจะช่วยดึงรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่
หากคุณกำลังมองหากาแฟที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และแตกต่าง กาแฟ Natural Process คือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะให้รสชาติที่เข้มข้นและเป็นธรรมชาติของกาแฟ
Honey Process : หวานละมุน หอมชื่นใจ
กาแฟ Honey Process เป็นอีกหนึ่งวิธีการแปรรูปเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหวานละมุนลิ้น
กระบวนการ Honey Process นั้นเป็นการนำผลเชอร์รี่กาแฟมาปลอกเปลือกออก แต่ยังคงเหลือเยื่อหุ้มเมล็ดไว้ จากนั้นจึงนำไปตากให้แห้งทั้งที่ยังมีเมือกติดอยู่ โดยระหว่างการตาก เมล็ดกาแฟจะดูดซับความหวานจากเยื่อหุ้มเมล็ดเข้าไป ทำให้ได้รสชาติที่หวานหอมเป็นเอกลักษณ์ กระบวนการนี้จะให้รสชาติที่มีความสมดุลระหว่างความหวานจากรสชาติแท้ๆ ของเมล็ดกาแฟ และความเปรี้ยวจากกรดที่ให้กลิ่นคล้ายผลไม้
เมล็ดกาแฟสด ที่ผ่านกระบวนการ Honey Process จะมีรสชาติที่หวานกลมกล่อม มีความซับซ้อนของรสชาติที่หลากหลาย กลิ่นและรสชาติของกาแฟที่ได้มีความหวานหอมคล้ายกลิ่นน้ำผึ้งหรือผลไม้
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แปลกใหม่ ลองเปลี่ยนมาดื่มกาแฟ Honey Process แล้วคุณอาจจะพบกับรสชาติใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
Washed Process : รสชาติสะอาด สดชื่น
กาแฟ Washed Process เป็นวิธีการแปรรูปเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยมีขั้นตอนการผลิตที่ละเอียด ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูงและรสชาติที่โดดเด่น
กระบวนการ Washed Process นั้นจะเริ่มจากการนำผลเชอร์รี่กาแฟมาคัดแยกและล้าง เพื่อเอาเมล็ดที่เสียหายออกไป จากนั้นนำไปหมักหรือขัดล้างเมือกออกด้วยเครื่องขัดเมือก หลังจากนั้นก็จะทำการตากให้แห้ง ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีความสะอาด และรสชาติที่สะอาดเป็นเอกลักษณ์ คือ มีความเปรี้ยวสดชื่น มีความซับซ้อนของรสชาติ มีรสชาติที่นุ่มนวลเจือรสเปรี้ยวเล็กน้อย มีความรู้สึกชุ่มฉ่ำจากกรดผลไม้
เมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการ Washed Process จะมีรสชาติที่สะอาด สดชื่น และมีรสชาติที่นุ่มนวลเจือความเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากกาแฟที่ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบอื่นๆ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติเบาๆ และต้องการสัมผัสรสชาติที่แท้จริงของกาแฟ
หากคุณกำลังมองหากาแฟที่มีรสชาติที่หลากหลายและซับซ้อน กาแฟ Washed Process คือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะให้รสชาติที่ไม่เหมือนใครและประสบการณ์การดื่มกาแฟที่น่าจดจำ
การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ นอกจากพิจารณาจากสายพันธุ์แล้ว ควรพิจารณาถึง Process ที่ใช้ในการแปรรูปด้วย เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ตรงกับความชอบของคุณ
เมล็ดกาแฟสด แต่ละระดับการคั่ว

ระดับการคั่วของ เมล็ดกาแฟสด มีผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟอย่างมาก การเลือกวิธีการชงที่เหมาะสมจะช่วยดึงเอารสชาติที่ซ่อนอยู่ในเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่
กาแฟคั่วอ่อน : สัมผัสรสชาติแท้ของกาแฟ
กาแฟคั่วอ่อน เป็นกาแฟที่ผ่านกระบวนการคั่วในระดับต่ำ ทำให้เมล็ดกาแฟยังคงรักษาสีน้ำตาลอ่อน และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากกาแฟคั่วเข้มทั่วไป
รสชาติและกลิ่นของกาแฟคั่วอ่อน จะมีความเปรี้ยวสูง มีความซับซ้อนของรสชาติที่หลากหลาย เช่น รสผลไม้ กลิ่นของดอกไม้ หรือรสช็อกโกแลต ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และแหล่งปลูกของเมล็ดกาแฟ นอกจากนี้ กาแฟคั่วอ่อนยังมีกลิ่นหอมที่สดชื่นและเป็นธรรมชาติ
เมล็ดกาแฟสด ที่นำมาคั่วในระดับอ่อน จะช่วยให้ได้รสชาติที่เปรี้ยวอมหวาน และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ดื่มได้สัมผัสกับรสชาติที่หลากหลายและซับซ้อนของกาแฟมากขึ้น
กาแฟคั่วอ่อนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติเบาๆ และต้องการสัมผัสรสชาติที่แท้จริงของกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชงด้วยวิธีการดริป (Pour Over) ซึ่งจะช่วยดึงรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่
กาแฟคั่วกลาง : สมดุลที่ลงตัวของรสชาติกาแฟ
กาแฟคั่วกลาง คือระดับการคั่วที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม สมดุล และเหมาะกับการดื่มทุกวัน กาแฟคั่วกลางจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่าคั่วอ่อนเล็กน้อย ผิวสัมผัสแห้งแต่ยังคงความมันวาวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
รสชาติและกลิ่นของกาแฟคั่วกลาง จะมีความเปรี้ยวและหวานที่พอดีกัน ไม่ขมมากเกินไป และยังคงความซับซ้อนของรสชาติที่ได้จากกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งอาจมีกลิ่นและรสของผลไม้ ช็อกโกแลต หรือถั่ว
เมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วในระดับกลาง จะช่วยดึงเอาความหวานจากธรรมชาติของเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งยังคงรักษาความเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและน่าดื่ม
กาแฟคั่วกลางเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มกาแฟที่มีรสชาติหลากหลาย และไม่ชอบรสชาติที่ขมมากเกินไป สามารถนำไปชงได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ่ ลาเต้ หรือกาแฟดริป (Pour Over) ก็ยังคงให้รสชาติที่อร่อย
หากคุณกำลังมองหากาแฟที่ดื่มได้ทุกวันและมีรสชาติที่ถูกปาก กาแฟคั่วกลางคือคำตอบ เพราะเป็นกาแฟที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ดื่มได้อย่างหลากหลาย
กาแฟคั่วเข้ม : รสชาติเข้มข้นสำหรับคนชอบกาแฟเข้ม
กาแฟคั่วเข้ม คือกาแฟที่ผ่านกระบวนการคั่วในระดับสูงสุด ทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้ม มีผิวมันวาว และมีกลิ่นหอมที่เข้มข้น
รสชาติและกลิ่นของกาแฟคั่วเข้ม จะมีความขมที่โดดเด่น มีตัวบอดี้ที่หนา และอาจมีกลิ่นโน้ตของช็อกโกแลต ถั่ว หรือ Smoke เล็กน้อย ความเปรี้ยวจะลดลงหรือไม่มีเลย เนื่องจากความร้อนสูงในระหว่างการคั่วจะทำลายกรดในเมล็ดกาแฟ
เมล็ดกาแฟสด ที่นำมาคั่วในระดับเข้ม จะช่วยให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและมีคาเฟอีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้ม หรือต้องการดื่มกาแฟเพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
กาแฟคั่วเข้มเหมาะสำหรับทำเมนูกาแฟที่มีส่วนผสมของนม เช่น ลาเต้ หรือคาปูชิโน เพราะรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟจะเข้ากันได้ดีกับความหวานมันของนม นอกจากนี้ยังสามารถดื่มเป็นเอสเปรสโซ่
หากคุณเป็นคนรักกาแฟรสเข้ม กาแฟคั่วเข้มคือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะให้รสชาติที่เข้มข้นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การเลือกกาแฟสดนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากคุณชอบกาแฟรสชาติเบาๆ หอมหวาน ควรเลือกเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า แต่ถ้าคุณชอบกาแฟรสชาติเข้มข้นและคาเฟอีนสูง โรบัสต้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เมนูสุดฮิตสำหรับเมล็ดกาแฟสด

เมล็ดกาแฟสด ไม่ได้มีดีแค่ชงดื่มอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอร่อยๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็นชื่นใจ หรือเมนูหวานมันที่เข้ากันได้ดีกับกาแฟที่จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่หลากหลายและน่าประทับใจ
เอสเปรสโซ่ (Espresso) : จุดเริ่มต้นของกาแฟรสเข้มข้น

เอสเปรสโซ่ คือหัวใจสำคัญของเครื่องดื่มกาแฟหลากหลายชนิดทั่วโลก กาแฟเข้มข้นชนิดนี้ได้มาจากการสกัดเมล็ดกาแฟสดบดละเอียดด้วยแรงดันน้ำร้อนสูง ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและครีมสีน้ำตาลเข้มที่เรียกว่า ครีมา (Crema) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
เมล็ดกาแฟที่นำมาทำเอสเปรสโซ่นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อรสชาติของกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ของกาแฟ ระดับการคั่ว และแหล่งปลูก ล้วนส่งผลต่อรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่รสชาติเปรี้ยวสดชื่น ไปจนถึงรสชาติเข้มข้นและกลิ่นช็อกโกแลต
กระบวนการชงเอสเปรสโซ่ นั้นต้องอาศัยความแม่นยำทั้งในเรื่องปริมาณกาแฟบด ขนาดการบด และแรงดันน้ำร้อนที่ใช้ การบดกาแฟให้ละเอียดพอเหมาะจะช่วยให้ได้กาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อมและครีมาที่สวยงาม ส่วนแรงดันน้ำร้อนที่เหมาะสมจะช่วยสกัดรสชาติของกาแฟออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เอสเปรสโซ่ นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มได้เพียวๆ แล้ว ยังเป็นเมนูเริ่มต้นของเครื่องดื่มกาแฟเมนูอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า และอเมริกาโน่ การเรียนรู้ที่จะชงเอสเปรสโซ่ที่ดีจะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มกาแฟได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
หากคุณเป็นคนรักกาแฟ และต้องการสัมผัสรสชาติที่แท้จริงของกาแฟ ลองเริ่มต้นจากการชงเอสเปรสโซ่ด้วยตัวเองดูสิ คุณอาจจะค้นพบรสชาติใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้
อเมริกาโน่ (Americano) : กาแฟดำคลาสสิกที่ใครๆ ก็ชอบ

อเมริกาโน่ เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เกิดจากการนำเมล็ดกาแฟคั่วบดมาสกัดเป็นเอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นจึงเติมด้วยน้ำร้อน ทำให้ได้กาแฟดำที่มีรสชาติกลมกล่อม ไม่ขมเกินไป และมีกลิ่นหอมของกาแฟ
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำอเมริกาโน่มักจะเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วเข้ม เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและบอดี้ที่หนา แต่ก็สามารถใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วกลางหรืออ่อนได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
ความแตกต่างระหว่างเอสเปรสโซ่และอเมริกาโน่ คือ เอสเปรสโซ่จะมีรสชาติเข้มข้นกว่าและมีครีมาอยู่ด้านบน ส่วนอเมริกาโน่จะมีรสชาติที่เบากว่าและมีครีมาน้อยกว่า โดยมีอัตราส่วนการชงคือ ช็อตเอสเพรสโซ 1 ส่วนและน้ำ 2 ส่วน
ปัจจุบัน อเมริกาโน่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีการดัดแปลงสูตรไปมากมาย เช่น อเมริกาโน่เย็น ที่เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำแข็ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่
หากคุณกำลังมองหาเครื่องดื่มกาแฟที่เรียบง่ายแต่รสชาติดี อเมริกาโน่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ลองหากาแฟคั่วเมล็ดคุณภาพดีมาชงดื่มเองที่บ้านดูสิ คุณอาจจะค้นพบรสชาติใหม่ๆ ที่คุณชอบก็ได้
ลาเต้ (Latte) : กาแฟนมยอดนิยม รสชาติกลมกล่อม

ลาเต้ เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่มีความนุ่มนวลและหอมหวาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติไม่เข้มข้นมากนัก การทำลาเต้เริ่มต้นจากการชงเมล็ดกาแฟให้ได้เอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นจึงนำเอสเปรสโซ่ไปผสมกับนมร้อนที่ตีฟองจนนุ่มฟู
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำลาเต้นั้นมีผลต่อรสชาติของเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปนิยมใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วกลาง หรือคั่วเข้ม เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่ขมเกินไป นอกจากนี้ การเลือกชนิดของนมก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนมวัว นมถั่วเหลือง หรือนมอัลมอนด์ ก็สามารถนำมาใช้ทำลาเต้ได้ตามความชอบ โดยมีอัตราส่วนการชงคือ ช็อตเอสเพรสโซ 1 ส่วนและฟองนม 2 ส่วน
ความพิเศษของลาเต้ อยู่ที่ฟองนมที่เนียนนุ่ม ซึ่งทำให้ลาเต้มีลักษณะเป็นเลเยอร์ที่สวยงาม และยังช่วยเพิ่มความหอมหวานให้กับเครื่องดื่ม นอกจากนี้ บาริสต้าหลายคนยังสามารถสร้างสรรค์ลวดลายสวยงามบนฟองนม หรือที่เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (Latte Art) ทำให้ลาเต้เป็นเครื่องดื่มที่น่าดื่มมากยิ่งขึ้น
ลาเต้ เป็นเครื่องดื่มที่ปรับแต่งได้หลากหลาย สามารถเพิ่มรสชาติด้วยไซรัปต่างๆ เช่น ไซรัปวานิลลา ไซรัปคาราเมล หรือจะเพิ่มความพิเศษด้วยการโรยผงอบเชยก็ได้เช่นกัน
คาปูชิโน่ (Cappuccino) : กาแฟนมฟองนุ่มที่ใครๆ ก็หลงรัก

คาปูชิโน่ เป็นเครื่องดื่มกาแฟยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม หอมหวาน และมีฟองนมที่นุ่มฟูสวยงาม การทำคาปูชิโน่เริ่มต้นจากการชงเมล็ดกาแฟให้ได้เอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นจึงนำเอสเปรสโซ่ไปผสมกับนมร้อนและฟองนมในปริมาณที่เท่ากัน
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำคาปูชิโน่ มักจะเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วกลาง เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่เข้มข้นเกินไปและเบาบางจนเกินไป นอกจากนี้ การเลือกชนิดของนมก็มีผลต่อรสชาติของคาปูชิโน่เช่นกัน โดยทั่วไปนิยมใช้นมวัว แต่ก็สามารถใช้นมชนิดอื่นๆ ได้ตามความชอบ โดยมีอัตราส่วนการชงคือ ช็อตเอสเพรสโซ 1 ส่วน, นมร้อน 1 ส่วน และฟองนม 1 ส่วน
ความแตกต่างระหว่างคาปูชิโน่กับลาเต้ คือ คาปูชิโน่จะมีปริมาณของฟองนมมากกว่าลาเต้ ทำให้มีลักษณะฟองนมที่หนาแน่นและสวยงามกว่า นอกจากนี้ คาปูชิโน่มักจะเสิร์ฟในแก้วขนาดเล็กกว่าลาเต้ และมักจะโรยผงโกโก้หรือผงอบเชยบนฟองนมเพื่อเพิ่มความหอมหวาน
คาปูชิโน่ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาเฟ่ทั่วไป และมีการดัดแปลงสูตรไปมากมาย เช่น คาปูชิโน่เย็น เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการดื่ม
มอคค่า (Mocha) : กาแฟช็อกโกแลตสุดคลาสสิก

มอคค่า เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ผสมผสานความอร่อยของกาแฟและช็อกโกแลตเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน และกลมกล่อม เป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้ที่ชอบกาแฟและชอบช็อกโกแลต การทำมอคค่าเริ่มต้นจากการชงเมล็ดกาแฟให้ได้เอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นจึงนำเอสเปรสโซ่ไปผสมกับช็อกโกแลตไซรัป นมร้อน และท็อปปิ้งด้วยวิปครีม
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำมอคค่านั้นมีผลต่อรสชาติของเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปนิยมใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วกลาง เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่เข้มข้นและไม่เบาจนเกินไป นอกจากนี้ การเลือกชนิดของช็อกโกแลตไซรัปก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน โดยสามารถเลือกไซรัปที่มีรสชาติเข้มข้นหรือหวานน้อยตามความชอบ โดยมีอัตราส่วนการชงคือ นมสตรีม 1 ส่วน, ช็อคโกแลต 2 ส่วน, เอสเพรสโซ่ช็อต 2 ส่วน และเพิ่มด้วยวิปครีม
ความพิเศษของมอคค่า อยู่ที่การผสมผสานระหว่างรสชาติของกาแฟและช็อกโกแลต ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวและน่าสนใจ นอกจากนี้ มอค่ายังสามารถตกแต่งด้วยวิปครีมและผงโกโก้ เพื่อเพิ่มความสวยงามและน่ารับประทาน
มอคค่า เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาเฟ่ทั่วไป และมีการดัดแปลงสูตรไปมากมาย เช่น มอคค่าเย็น เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการดื่ม
แฟลตไวท์ (Flat White) : กาแฟนมเข้มข้นสไตล์ออสเตรเลีย

แฟลตไวท์ เป็นกาแฟยอดนิยมที่ใครหลายคนหลงรัก ด้วยรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และฟองนมที่ละเอียดนุ่ม ทำให้ได้อารมณ์เหมือนดื่มกาแฟและนมไปพร้อมๆ กัน การทำแฟลตไวท์เริ่มต้นจากการชงกาแฟสดให้ได้เอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นจึงนำเอสเปรสโซ่ไปผสมกับนมร้อนที่ผ่านการสตีมจนได้ไมโครโฟมละเอียดนุ่ม
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำแฟลตไวท์ มีผลต่อรสชาติโดยรวมอย่างมาก โดยทั่วไปนิยมใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วกลางหรือคั่วเข้มเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและบอดี้ที่หนา นอกจากนี้ การเลือกชนิดของนมก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน โดยทั่วไปนิยมใช้นมวัว แต่ก็สามารถใช้นมชนิดอื่นๆ ได้ตามความชอบ โดยมีอัตราส่วนการชงคือ ช็อตเอสเพรสโซ 1 ส่วน, นมสตรีม 3 ส่วน และฟองนม 2 ส่วน
ความพิเศษของแฟลตไวท์ อยู่ที่ฟองนมที่ละเอียดนุ่ม ทำให้ได้สัมผัสที่เนียนละมุนนุ่มลิ้น และรสชาติของกาแฟที่เข้มข้นโดดเด่นออกมา ต่างจากลาเต้ที่เน้นฟองนมหนา แฟลตไวท์จะเน้นที่รสชาติของกาแฟและนมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
มัคคิอาโต้ (Macchiato) : กาแฟเข้มข้นสไตล์อิตาเลียน

มัคคิอาโต้ เป็นกาแฟสไตล์อิตาเลียนที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เข้มข้นของเอสเปรสโซ่ ผสานกับความนุ่มละมุนของฟองนม ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวเป็นอย่างยิ่ง
โดยเมนูนี้ทำมาจากเมล็ดกาแฟที่นำมาชงเป็นเอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นราดด้วยนมร้อนหรือฟองนมเพียงเล็กน้อย ทำให้ยังคงรสชาติของกาแฟเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้นที่ผสมนมอย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟเข้มข้นแต่ต้องการความนุ่มนวลของนม
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำมัคคิอาโต้มักจะเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วกลางหรือคั่วเข้ม เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและบอดี้ที่หนา โดยมีอัตราส่วนการชงคือ ช็อตเอสเพรสโซ 2 ส่วน, นมสด 2 ส่วน, ฟองนม 1 ส่วน, และคาราเมลผสมน้ำตาล 1 ส่วน
ความพิเศษของมัคคิอาโต้ อยู่ที่ความเรียบง่ายแต่ทรงพลังของรสชาติกาแฟ และความสวยงามของชั้นฟองนมที่ลอยอยู่ด้านบน ทำให้มัคคิอาโต้เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม
อัฟโฟกาโต (Affogato) : ของหวานกาแฟสุดคลาสสิก

อัฟโฟกาโต เป็นของหวานสไตล์อิตาเลียนที่ผสมผสานความเข้มข้นของกาแฟกับความหวานเย็นของไอศกรีมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว คำว่า “อัฟโฟกาโต” ในภาษาอิตาลีมีความหมายว่า “จม” หรือ “ถูกทำให้จม” ซึ่งหมายถึงการราดเอสเปรสโซ่ร้อนลงบนไอศกรีมจนไอศกรีมละลาย
โดยเมนูนี้ทำมาจากเมล็ดกาแฟที่ชงเป็นเอสเปรสโซ่เข้มข้น จากนั้นราดลงบนไอศกรีมวานิลลา โดยปกติจะใช้ไอศกรีมวานิลลา แต่สามารถใช้ไอศกรีมรสอื่นๆ ได้ตามความชอบ เช่น ไอศกรีมช็อกโกแลต หรือไอศกรีมรสผลไม้
เมล็ดกาแฟสด ที่ใช้ทำอัฟโฟกาโต้มักจะเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วกลางหรือคั่วเข้ม เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและบอดี้ที่หนา เมื่อราดเอสเพรสโซ่ช็อตลงบนไอศกรีมจะทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หวานมัน และมีกลิ่นหอมของกาแฟ
ความพิเศษของอัฟโฟกาโต อยู่ที่ความลงตัวของรสชาติที่ตัดกันอย่างลงตัว ระหว่างความร้อนของกาแฟและความเย็นของไอศกรีม ทำให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่และน่าสนใจ นอกจากนี้ อัฟโฟกาโตยังเป็นเมนูที่ทำง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับเป็นของหวานหลังอาหารหรือจะดื่มเป็นเครื่องดื่มดับกระหายก็ได้
เมล็ดกาแฟสดของ PANA Coffee มีกี่แบบ อะไรบ้าง?
PANA Coffee มีเมล็ดกาแฟสดหลากหลายสายพันธุ์และกระบวนการผลิตให้เลือก เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรักกาแฟทุกคน มาดูกันว่าแต่ละตัวเหมาะกับการชงแบบไหน
SUNSHINE Blend

กาแฟอราบิก้าคั่วกลางที่ผสมผสานกันระหว่างความหอมละมุนจากคาราเมล ความเปรี้ยวจากผลไม้ตระกูลซิตรัส และความสดชื่นจากสมุนไพรอย่างสมดุล
Arabica 100% l Honey Process Blend l Medium Roast
Tasting Notes: Citrus, Fresh Herbs, Salted Caramel, Balance, Medium-round Body and Sweet Juicy Aftertaste
เหมาะกับการชงแบบ Pour Over หรือ Drip ที่จะช่วยดึงรสชาติที่ซับซ้อนออกมาได้อย่างเต็มที่
SUNNY Blend

กาแฟอราบิก้าคั่วกลางเข้มที่มีความหอมของช็อคโกแลตและโกโก้ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับความหอมนุ่มละมุนของคาราเมลและถั่ว
Arabica 100% l Honey Process Blend l Medium to Dark Roast
Tasting Notes: Fresh Herbs, Chocolatey, Cocao, Caramel, Nutty, Medium to Full Body and Bitter-sweet Aftertaste
เหมาะสำหรับการชง Espresso หรือ Moka Pot เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม
SUNKISS Blend

กาแฟอราบิก้าคั่วกลางเข้มที่ผสมผสานระหว่างความหอมอบอวลของเบอร์บอนบิสกิตและช็อคโกแลตเฮเซนัทฟัดจ์อย่างกลมกล่อม หวานฉ่ำที่ปลายลิ้นอย่างลงตัว
Arabica 100% l Washed Process l Medium to Dark Roast
Tasting Notes: Bourbon biscuit, Chocolate Hazelnut Fudge, Rich and Syrupy Body
เหมาะสำหรับการชง French Press หรือจะนำไปทำ Cold Brew ก็อร่อย
SUNSET Blend

กาแฟอราบิก้าเบลนด์โรบัสต้าคั่วกลางเข้มที่มีความหอมเข้มข้นของดาร์กช็อคโกแลตอย่างหนักแน่นผสานความหอมของกลิ่นคั่วและกลิ่นสมุนไพรอย่างชัดเจน
Arabica 70% Robusta 30% l Washed Process l Medium to Dark Roast
Tasting Notes: Spices, Brown Roast, Dark Chocolate, Smooth Body, Balance and Sweet Finished
เหมาะสำหรับการชง Espresso ในการทำเมนูกาแฟผสมนม เช่น ลาเต้ หรือ คาปูชิโน
การเลือกเมล็ดกาแฟ PANA Coffee ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ลองอ่าน Tasting Notes เพื่อดูว่าโปรไฟล์รสชาติตรงกับที่คุณชอบหรือไม่ และอย่าลืมลองชิมหลายๆ แบบเพื่อค้นพบรสชาติที่ใช่ของคุณ
โลกของกาแฟมีความหลากหลายตั้งแต่สายพันธุ์ วิธีการแปรรูป ไปจนถึงระดับการคั่ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟที่ได้ นอกจากนี้ เมล็ดกาแฟสด ของ PANA Coffee มีความหลากหลายและเหมาะสมสำหรับการชงแต่ละแบบ ทางทีมงานหวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมกับความชอบของคุณ อีกทั้งช่วยให้คุณเลือกเมล็ดกาแฟและเพลิดเพลินกับกาแฟแก้วโปรดได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เมล็ดกาแฟสดซื้อที่ไหน? สั่งซื้อกาแฟคั่วเมล็ดจาก PANA Coffee ได้ทาง…
Website : https://cloudyhillcoffee.com/
Line Shopping : https://shop.line.me/@panacoffee/
Shopee : https://shopee.co.th/sodcoffee
LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/sodcoffee